ควรรู้! กฎหมายรถกระบะ ขับขี่และขนของอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย 2022

กฎหมายรถกระบะ ขับขี่ปลอดภัย

มาทำความรู้จักกับ กฎหมายรถกระบะ กันก่อน

            รถกระบะเป็นพาหนะยอดนิยมของคนไทย เพราะใช้งานได้อเนกประสงค์มากกว่ารถเก๋งแต่ก็มีความสะดวกมากกว่ารถบรรทุกเพราะมีขนาดเล็กกว่ามากนั่นเอง ทั้งนี้เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ซื้อรถกระบะด้วยจุดประสงค์ด้านการบรรทุกสิ่งของเป็นหลัก แต่ทราบหรือไม่ว่าในทางกฎหมายนั้นมีกฎหมายรถกระบะคอยควบคุมการใช้รถกระบะเพื่อบรรทุกสิ่งของอยู่ เหตุผลเพื่อความปลอดภัยต่อเจ้าของรถและเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนนั่นเอง ว่าแต่กฎหมายนี้มีสิ่งใดที่ควรทราบบ้าง มาดูกัน

อ่านเพิมเติม : สำหรับใคร กำลังจะย้ายบ้านใหม่ ดูฤกษ์ เสริมโชค เสริมดวง 2566

กฎหมายรถกระบะ มีอะไรบ้างที่ควรรู้

หากต้องการขนย้ายสิ่งของขนาดใหญ่อย่างรูปหล่อ ปูนปั้น ขนย้ายตู้เซฟหรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ หลายคนอาจจะอยากทราบว่าต้องบรรทุกอย่างไร จึงจะไม่ผิดกฎหมายรถกระบะ ข้อมูลที่ต้องรู้มีดังต่อไปนี้

  • ระยะบรรทุกที่ปลอดภัย สิ่งของที่บรรทุกจะต้องมีความกว้างไม่เกินความกว้างของตัวรถ ยาวไม่เกินหน้าหม้อรถ ส่วนด้านหลังจะต้องยาวพ้นรถไม่เกิน 5 เมตร สำหรับความสูงนั้นไม่เกิน 3 เมตรจากพื้น แต่ถ้ารถมีความกว้างมากกว่า 2.3 เมตร ก็จะบรรทุกได้สูงสุด 3.8 เมตร
  • ขนาดบรรทุก ไม่เกิน 1 ตัน หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ทั้งนี้สิ่งของที่บรรทุกนั้นจะต้องถูกผูกมัดเอาไว้กับตัวรถอย่างแน่นหนา
  • การบรรทุกของโดยเปิดท้ายรถ หากไม่สามารถปิดท้ายกระบะรถได้ จะต้องนำผ้าสีแดงที่มีความกว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 45 เซนติเมตรมาผูกเอาไว้ในตำแหน่งที่รถด้านหลังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนให้แก่เพื่อนร่วมทาง ในกรณีที่เป็นเวลากลางคืนหรืออยู่ช่วงเวลาที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในระยะ 150 เมตร จะต้องมีการติดสัญญาณไฟสีแดงเพื่อใช้เป็นสัญญาณเตือน ช่วยป้องกันการเกิดอันตราย
  • การดัดแปลงเพิ่มเติมเพื่อบรรทุกสิ่งของ โดยทั่วไปแล้วการดัดแปลงแก้ไขรถกระบะให้ผิดไปจากที่เคยจดทะเบียนไว้นั้นผิดกฎหมาย แต่ถ้าต้องการดัดแปลงเพิ่มเติมเพื่อบรรทุกของ ก็สามารถเข้าไปแจ้งแก้ไขที่สำนักงานขนส่งที่ไปจดทะเบียนเอาไว้ได้ โดยจะมีการตรวจสภาพรถก่อนว่าแข็งแรงและสามารถใช้จริงได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ สำหรับการติดตั้งคอกสูงนั้นจะติดได้สูงมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับความกว้างของตัวรถ หากกว้างน้อยกว่า 3 เมตรติดตั้งคอกสูงได้ไม่เกิน 3 เมตร หากรถกว้างเกิน 2.3 เมตรจะติดตั้งคอกสูงได้ไม่เกิน 3.8 เมตร
  • การนั่งท้ายกระบะ กฎหมายห้ามนั่งท้ายรถกระบะล่าสุดนั้นอาจเป็นกฎหมายที่หลายคนเพิ่งได้ยินเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่าน เพราะมีการบังคับใช้กันอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ความจริงแล้วกฎหมายห้ามนั่งท้ายรถกระบะนั้นมีหลายนานหลายสิบปีแล้ว อ้างอิงจาก พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 21 ที่กล่าวถึงการห้ามใช้รถที่ไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนเอาไว้ โดยห้ามใช้รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรถไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน หรือ ใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ดังนั้นจึงห้ามนั่งท้ายรถกระบะที่ไม่มีหลังคาปกปิดนั่นเอง อย่างไรก็ตามอาจมีผ่อนผันอยู่บ้างในช่วงเทศกาลที่มีผู้เดินทางกลับบ้านเป็นจำนวนมาก แต่ก็ห้ามรถที่มีการบรรทุกคนที่กระบะท้ายแบบนี้ขึ้นทางด่วนโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่มาจากความประมาทของคุณเอง เพราะฉะนั้นใครที่จะนั่งกระบะท้ายก็อย่าลืมเปรียบเทียบเสียก่อนว่าคุ้มค่าหรือไม่ที่จะเสี่ยงหากเกิดอุบัติเหตุตามมา และเมื่อกระบะท้ายไม่ได้ออกแบบมาเพื่อบรรทุกคน เพราะฉะนั้นการนั่งท้ายกระบะจึงผิดฎหมาย ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ 2522 มาตรา 21 หากใช้งานรถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนเอาไว้ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

ข้อดีของการเลือกใช้รถกระบะในการขนของย้ายของ

รถกระบะเป็นพาหนะขนาดเล็กเมื่อเทียบกับรถหกล้อหรือรถสิบล้อ แต่การเลือกใช้รถกระบะเพื่อขนของย้ายของนั้นก็มีข้อดีเช่นเดียวกัน อาทิ

  • สะดวก หากย้ายสิ่งของปริมาณไม่มากหรือมีน้ำหนักไม่เยอะเกินไป การใช้รถกระบะจะสะดวกกว่า เพราะมีข้อจำกัดในการเดินทางน้อยกว่า ขับขี่ง่ายและคล่องตัวกว่ารถขนาดใหญ่มาก
  • ประหยัดน้ำมัน เป็นธรรมดาที่รถขนาดเล็กย่อมประหยัดน้ำมันมากกว่ารถขนาดใหญ่ หากเป็นการขนย้ายสิ่งของธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่ขนคราวละมากๆ หรือขนของที่มีน้ำหนักเกินกว่า 1 ตัน เลือกใช้รถกระบะจะตอบโจทย์มากกว่า

สำหรับใครที่กำลังจะขนย้ายสิ่งของด้วยรถกระบะ ก็อย่าลืมศึกษากฎหมายรถกระบะกันให้ละเอียดและปฏิบัติตามกันอย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนทั้งกับตัวเองและผู้อื่นนั่นเอง

 ใช้บริการรถกระบะรับจ้าง ก็ถือว่าตอบโจทย์ สะดวก ง่าย ไม่ผิดกฎหมายแน่นอน

แม้กฎหมายรถกระบะจะไม่ได้ซับซ้อนจนยากที่จะปฏิบัติตาม แต่รถยนต์ส่วนใหญ่อาจไม่ได้มีคอกสูงเพื่อบรรทุกสิ่งของเพิ่มเติม เพราะฉะนั้นจึงขนของได้ปริมาณไม่มากนัก การเลือกใช้บริการรถกระบะรับจ้างจึงตอบโจทย์และให้ความสะดวกมากกว่า โดยมีข้อดีดังต่อไปนี้

  • ถูกกฎหมาย บริษัทรับจ้างขนย้ายมืออาชีพจะปฏิบัติตามกฎหมายแน่นอน เพราะหากทำผิดกฎหมายและถูกจับได้ก็จะเป็นผลเสียต่อบริษัทเอง ภาระจึงไม่ตกอยู่กับลูกค้า หมดกังวลเรื่องกฎหมายรถกระบะไปได้เลย
  • สะดวก บริษัทรับจ้างขนย้ายมักให้บริการครบวงจร เช่น แพ็คของ ยกของ เป็นต้น ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีคนช่วยยกของหรือแพ็คของ งานน้อยลงมาก สะดวก สบาย ไม่เปลืองแรง
  • มีรถให้เลือก ที่ไทยดีมูฟเรามีรถให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภท ในส่วนของรถกระบะเองก็มีทั้งรถคอกสูงและรถตู้ทึบ เลือกได้ตามใจต้องการ หากเน้นขนของเยอะก็เลือกรถคอกสูง แต่ถ้ากังวลเรื่องสภาพอากาศก็เลือกใช้รถตู้ทึบกันได้ ไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออกก็ขนย้ายสิ่งของได้ทุกสภาพอากาศ
  • ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ บริษัทรับจ้างขนย้ายบางแห่งอย่างไทยดีมูฟนั้นพร้อมให้บริการทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย ไปได้ทุกแห่งหากมีถนน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะใกล้ไกลแค่ไหนก็พร้อมให้บริการเสมอ

สรุปได้เลยว่ากฎหมายรถกระบะนั้นมีข้อมูลที่ควรทราบไม่มากนัก แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนทั้งกับตัวเองและเพื่อนร่วมทาง การละเลยแม้เพียงเล็กน้อยเป็นความประมาท อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดตามมาได้ ดังนั้นใครที่ไม่มั่นใจว่าสามารถปฏิบัติตามกฎหมายรถกระบะได้ แนะนำให้ใช้บริการรถกระบะรับจ้างจะดีกว่า เลือกบริษัทรับจ้างขนย้ายที่มีความมืออาชีพ เพราะบริษัทเหล่านั้นจะมีความพร้อมทั้งรถ อุปกรณ์และทีมงานขนย้าย สะดวก ปลอดภัย สำหรับใครที่สนใจอยากใช้บริการรถกระบะรับจ้างแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกเจ้าไหนดี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางไทยดีมูฟกันเข้ามาได้เลย มีเจ้าหน้าที่คอยตอบคำถามตลอดเวลา 24 ชั่วโมง รับรองว่าให้บริการคุณภาพดีและในราคาที่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอน

2 thoughts on “ควรรู้! กฎหมายรถกระบะ ขับขี่และขนของอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย 2022

  1. Pingback: ส่งของด่วนไปต่างจังหวัด บริการขนย้ายด่วน เร็วที่สุดวันเดียวถึง คลิกเลย !

  2. Pingback: รถรับจ้างส่งของ มองหารถขนส่งสินค้า ขนย้ายบ้าน คลิกเลย ถูกที่สุด 2024

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *