ทริคสำคัญในการย้ายตู้เย็นไม่ให้เสียหายใช้งานได้เหมือนเดิม

ย้ายตู้เย็น

และแล้วก็มาถึงหัวข้อการ ย้ายตู้เย็น เมืองไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อน หนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมและทุกบ้านจำเป็นต้องมี คือ ตู้เย็น นั่นเอง ตู้เย็น คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้ทำความเย็น เพื่อป้องกันของเน่าเสีย เนื่องจากเชื้อโรคและแบคทีเรียจะเจริญเติบโตช้าในอุณหภูมิต่ำ ภายในตู้เย็นจะมีช่องฟรีซหรือชิ่งแช่แข็งสำหรับใช้เก็บรักษาอาหาร กันเน่า กันเสีย หรือกันบูด นอกจากนั้นยังเอาไว้แช่เครื่องดื่มเย็นๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นเพราะอย่างที่บอกว่าอากาศในเมืองไทยเราค่อนข้างร้อน เชื่อว่าหลายบ้านคงเคยพบเจอปัญหาการย้ายตู้เย็นมาก่อน โดยพาะเวลาที่ต้องย้ายบ้านใหม่ หรือขนย้ายหอ ย้ายคอนโด ย้ายที่พักต่างๆ การขนย้ายตู้เย็นมีความหนัก และเสี่ยงที่จะทำให้ตู้เย็นเกิดการเสียหายได้ หากย้ายไม่ถูกวิธี

ย้ายตู้เย็นห้ามยกนอนจริงไหม

คุณเคยสงสัยไหมว่าเวลาย้ายตู้เย็น สามารถยกนอนได้ไหม และตู้เย็นจะเกิดการเสียหายหรือไม่ เพราะบ่อยครั้งที่ต้องขนย้ายตู้เย็นเข้าที่แคบ ผ่านสถานที่เล็กๆ ซึ่งไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่นัก เช่น ทางเดินแคบเกินไป บันได ขึ้นลิฟต์ รวมถึงรถที่นำมาใส่ในการขนย้ายตู้เย็นที่มีขนาดไม่เหมาะสม ทำให้จำเป็นต้องนอนตูเย็นหรือจับตู้เย็นตะแคงลง เพื่อให้การขนย้ายตู้เย็นสะดวกมากขึ้น หรือสามารถใส่เข้าไปในรถได้สำเร็จ ในความเป็นจริงต้องบอกเลยว่า ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ! เพราะการยกตู้เย็นในแนวนอนหรือตะแคง จะทำให้คอมเพรสเซอร์เกิดการเคลื่อนตัวและไหลออกมา ส่งผลทำให้ระบบภายในตู้เย็นได้รับความเสียหาย แต่ในกณีที่จำเป็นต้องเอียงตู้เย็นจริงๆ แนะนำไม่ควรเอียงเกินกว่า 40 องศา

หลายคนสงสัยว่าแล้วถ้านอนตู้เย็นในขณะขนย้ายไปแล้ว ควรทำอย่างไร มีวิธีแก้ไขหรือไม่ เพื่อลดโอกาสที่อุปกรณ์ภายในตู้เย็นจะเกิดความเสียหาย จากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลังจากที่เคลื่อนย้ายตู้เย็นในแนวนอนเสร็จแล้ว ห้ามเสียบปลั๊กใช้งานตู้เย็นเด็ดขาด ให้รอจนกว่าน้ำยาคอมเพรสเซอร์จะไหลกลับเข้ามาอยู่ในภาวะเสถียร ดังนั้น ควรถอดปลั๊กตู้เย็นทิ้งไว้อย่างน้อย 48 ชั่วโมง จึงสามารถเสียบปลั๊กใช้งานได้เหมือนเดิม ทั้งนี้ ถ้าเสียบปลั๊กและปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมงผ่านไป ปรากฏว่าตู้เย็นไม่เย็นอย่างที่เคยเป็น นั่นหมายความว่าคอมเพรสเซอร์เกิดการเคลื่อนตัวและไหลออกมาสัมผัสกับอุปกรณ์อื่นๆ ภายนอก จนทำให้ระบบอื่นได้รับความเสียหาย อาจต้องเรียกช่างที่มีความรู้หรือมีประสบการณ์มาซ่อม ซึ่งทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม

วิธีย้ายตู้เย็นที่ต้องรู้ก่อนย้ายบ้าน

1. นำอาหารรออกจากตู้เย็นให้หมด
   ก่อนย้ายตู้เย็น ขั้นตอนแรกควรนำอาหารออกจากตู้เย็นให้หมด ซึ่งต้องดูให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งของ อาหาร ขวดเครื่องปรุง ฯลฯ ในตู้เย็นแล้ว เพราะสิ่งของเหล่านี้ อาจเพิ่มน้ำหนักในการขนย้ายได้ และยังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุในการขนย้าย หากสิ่งของเหล่านั้นเกิดหก หรือตกหล่นออกมาจากตู้เย็น อาจไปกีดขวางทางผู้ยกและทำให้ผู้ยกหกล้มได้รับบาดเจ็บได้
2. ถอดชั้นวางออก
   นอกจากจะต้องนำอาหารออกจากตู้เย็นให้หมดแล้ว จะต้องถอดชั้นวางหรือชิ้นส่วนภายในตู้เย็นออกด้วย เช่น ชั้นวาง ถาดรอง และส่วนที่ขยับได้อื่นๆ ช่องเก็บของ ช่องแยกของต่างๆ ถอดออกให้หมดก่อนการเคลื่อนย้าย จากนั้นนำชิ้นส่วนมาเก็บใส่กล่อง ติดป้าย เพื่อให้สะดวกต่อการขนย้ายและป้องกันชิ้นส่วนภายในตู้เย็นสูญหายด้วย
3. ถอดปลั๊กตู้เย็น
   หลังจากถอดปลั๊กตู้เย็นออกแล้วให้ม้วนเก็บสายไฟให้แน่นหนาและพันด้วยเทปกาวไว้อย่างเป็นระเบียบ เพื่อไม่ให้เกะกะในขณะเคลื่อนย้าย
4. ละลายน้ำแข็งในช่องฟรีซ
   หากช่องฟรีซของคุณพบว่ามีน้ำแข็งเกาะ ให้กดปุ่มละลายน้ำแข็ง และรอจนกว่าน้ำแข็งจะละลายออกหมด เมื่อน้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำ ให้นำถาดรองน้ำแข็งหลังตู้เย็นไปเททิ้งให้เรียบร้อย
5. ปิดฝาตู้เย็นยึดให้แน่นหนา
   ก่อนการเคลื่อนย้ายตู้เย็นให้นำเชือกหรือสายรัดยางที่มีความแข็งแรงมารัดที่ประตูตู้เย็นไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ประตูตู้เย็นเปิดออกในระหว่างการเคลื่อนย้าย อย่างไรกร็ตาม ในกรณีที่การเคลื่อนย้ายตู้เย็นต้องใช้เวลานาน หรือมีการเคลื่อนย้ายด้วยระยะทางไกล เมื่อเคลื่อนย้ายตู้เย็นขึ้นบนรถแล้ว ให้ทำการเปิดแง้มฝาตู้เย็นไว้เล็กน้อย เพื่อระบายอากาศข้างใน ตู้เย็นจะได้ไม่เหม็นอับมากเกินไป

ทั้งหมดนี้ คือ วิธีย้ายตู้เย็นที่ต้องรู้ก่อนย้ายบ้าน เพื่อไม่ให้ตู้เย็นเกิดการเสียหาย สิ่งสำคัญในการย้ายตู้เย็นคือการยกตู้เย็น อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่า ไม่ควรนอนตูเย็นหรือตะแคงตู้เย็น เพราะอาจทำให้อุปกรณ์ภายในตู้เย็นได้รับความเสียหายได้ จะดีกว่าไหม หากคุณต้องการย้ายตู้เย็น ย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ย้ายบ้าน ย้ายหอ ย้ายคอนโด หรือเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ แล้วเลือกใช้บริการรถขนย้ายที่มีคุณภาพ ทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพสูง อย่างเช่น ไทยดีมูฟ 

ไทยดีมูฟ คือ บริษัทรับจ้างขนย้าย ขนส่งสินค้า ที่มีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่า 30 ปี บริการรถรับจ้างทั่วประเทศไทย ในราคาเป็นกันเอง มีรถรับจ้างหลายยประเภท ทั้ง รถกระบะ รถ 6 ล้อ รถ 10 ล้อ รถเฮี๊ยบรับจ้าง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกรูปแบบ มั่นใจในเรื่องการทำงาน มีพนักงานผู้เชี่ยวชาญในการยกของที่มีประสบการณ์ในการยกของ โดยที่คุณไม่ต้องไปว่าจ้างคนยกของเองให้ยุ่งยาก หรือต้องยกของเองให้ปวดเมื่อยร่างกาย ที่สำคัญคือไม่กังวลว่าสิ่งของจะได้รับความเสียหาย ชำรุด หรือแตกหักในระหว่างการขนย้าย โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หากเคลื่อนย้ายผิดวิธี อาจทำให้สิ่งของพังหรือเสียหายได้ ทางที่ดีเลือกใช้บริการ ไทยดีมูฟ บริการรถรับจ้างขนของที่ให้บริการคุณด้วยความประทับใจ ทำให้การเคลื่อนย้ายรวดเร็ว สิ่งของไม่เสียหาย และคุณไม่ต้องกังวลเรื่องการย้ายสิ่งของอีกต่อไป