ยกของหนักปวดไหล่
“ข้อไหล่” เป็นข้อต่อที่สำคัญไม่แพ้ข้อต่อชิ้นอื่นในร่างกาย เนื่องจากเป็นข้อที่สามารถหมุนได้รอบ มีความคล่องตัวสูง ต้องทำงานร่วมกับแขนเพื่อขยับไหว หยิบจับ ยกของและทำกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย หากข้อไหล่ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติย่อมจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากเลยทีเดียว อาการบาดเจ็บที่ไหล่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยคือ ยกของหนักปวดไหล่ แม้การบาดเจ็บจะไม่เกิดกับข้อกระดูกโดยตรง แต่ก็นี่คือสัญญาณเตือนของอาการ “เอ็นหัวไหล่ฉีกขาด” หากอาการรุนแรงมากขอบอกเลยว่าแม้แต่กิจกรรมง่าย ๆ อย่างการแปรงฟัน หวีผมหรือแม้แต่ยกแขนก็อาจไม่สามารถทำได้ เพราะฉะนั้นอยากให้ผู้ที่ต้องยกของหนักเป็นประจำมาทำความเข้าใจกับภาวะนี้กันให้มากขึ้นเพื่อที่จะได้ปฏิบัติตัวกันอย่างถูกต้องนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : การยกของที่ถูกวิธี บอกเลย หมดปัญหาเรื่องปวดหลัง ปวดไหล่
ควรยกของอย่างไรให้ถูกวิธี จะได้ไม่ปวดไหล่
เมื่อต้องยกของหรือผู้ที่มีอาชีพต้องยกของเป็นประจำ การยกของที่ถูกวิธี้เป็นสิ่งที่ควรรู้ไว้ เพราะจะช่วยลดโอกาสที่เกิดการบาดเจ็บที่ไหล่ หลังหรือกระดูกสันหลังได้นั่นเอง ซึ่งการยกของอย่างถูกวิธีสามารถปฏิบัติได้ดังต่อไปนี้
- ประเมินน้ำหนักและขนาดสิ่งของ เพื่อดูว่าสิ่งของนั้นสามารถยกได้เพียงลำพังหรือไม่ หากหนักมากเกินไปจะได้เตรียมเครื่องมือหรือบุคคลอื่นเพิ่มเติมมาช่วยในการขนย้าย
- สำรวจสิ่งของ สิ่งของนั้นควรวางในลักษณะตรง ไม่อยู่สูงเกินไป ไม่ควรมีเศษแก้ว กระจกหรือของมีคมอื่นใด หากมีจะต้องห่อหุ้มให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันอันตรายในระหว่างขนย้าย หากเป็นไปได้ควรสวมถุงมือเพราะช่วยป้องกันการขีดข่วนหรือการถูกของมีคมบาดได้ การสวมรองเท้ากันลื่นจะทำให้เดินได้มั่นคงมากขึ้น ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุแม้จะต้องยกของผ่านเส้นทางที่เปียกน้ำหรือลาดเอียง ในกรณีที่ต้องยกของในสถานที่ที่ยังมีการก่อสร้างหรือมีสิ่งของที่อาจตกหล่นจากด้านบน ก็ควรจะสวมหมวกกันกระแทกเอาไว้ด้วย
- เส้นทางการขนย้ายต้องปลอดภัย พื้นจะต้องไม่ลื่นหรือเปียกน้ำ มีแสงสว่างเพียงพอ มีพื้นที่จัดวางเหมาะสม ไม่ควรอยู่ติดถนนในที่ที่มีรถราสัญจร หากจำเป็นต้องยกของกันริมถนน แนะนำให้วางป้ายเตือนชั่วคราวด้วย
- เตรียมเครื่องทุ่นแรง เช่น รถเข็น อุปกรณ์ช่วยยก เป็นต้น หากใช้อย่างถูกวิธีก็จะช่วยทุ่นแรงและยังทำให้ยกของได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นด้วย เพียงแต่ว่าอุปกรณ์บางอย่างจำเป็นต้องมีความเข้าใจในการใช้งาน เพราะฉะนั้นควรศึกษาข้อมูลการใช้งานอุปกรณ์แต่ละชิ้นให้ละเอียดเสียก่อน
- ยกของอย่างถูกวิธี เริ่มจากยืนให้ชิดกับสิ่งของที่ต้องการยก วางเท้าข้างหนึ่งไว้ด้านหน้า ส่วนอีกข้างไว้ด้านหลัง เพื่อความสมดุลในการทรงตัว จากนั้นย่อเข่าเป็นแนวตรง หลังต้องตรงตามธรรมชาติเพื่อลดภาระให้กระดูกสันหลัง เมื่อหลังตรงน้ำหนักจะกระจายอย่างเหมาะสม ไม่เหมือนกับการโค้งตัวยกของซึ่งเป็นภาระกับหลังและกระดูกสันหลังมากเกินไป เมื่อย่อจนอยู่ในลักษณะนั่งยองแล้ว ต่อมาก็จับสิ่งของที่ต้องการยกให้มั่นคง จับโดยใช้ฝ่ามือไม่ใช่ปลายนิ้ว พยายามให้ต้นแขนชิดลำตัวแม้ว่าจะต้องยื่นแขนออกไปจับสิ่งของ แต่ต้นแขนก็ไม่ควรกางออก ค่อย ๆ ยกสิ่งของขึ้นโดยใช้แรงส่งจากกล้ามเนื้อขาเป็นหลัก ของที่ยกจะต้องไม่สูงเกินไปจนบดบังทัศนวิสัยในการมอง เพราะอาจทำให้หกล้มหรือเดินสะดุดได้
แก้ปัญหาอาการปวดไหล่ได้อย่างไรบ้าง
โดยทั่วไปแล้วหากยกของด้วยวิธีที่แนะนำไปข้างต้น จะช่วยลดการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นกับหลังหรือไหล่ได้ เพียงแต่ถ้ายกของหนักบ่อย ๆ หรือต้องยกของคราวละมาก ๆ ก็สามารถทำให้เอ็นข้อไหล่ฉีกขาดจนมีอาการปวดไหล่ตามมาได้เช่นเดียวกัน สำหรับใครที่ยกของหนักปวดไหล่โดยเพิ่งจะรู้สึกปวดหรือมีอาการไม่นานนักและไม่ปวดมาก ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ก็ได้ เพียงแค่ปฏิบัติตนเบื้องต้น ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการใช้งานไหล่ โดยเฉพาะการใช้งานหนัก ๆ ไปเสียก่อนจนกว่าจะหายดี หากยังฝืนยกอยู่เรื่อย อาการปวดจะไม่มีทางหายอย่างแน่นอน
- งดสะพายกระเป๋าที่บรรจุของจำนวนมาก เพราะส่งผลกระทบต่อไหล่มากไม่แพ้กับการยกของเลย
- หลีกเลี่ยงการยกแขนสูง เพราะจะทำให้รู้สึกปวดยิ่งกว่าเดิมได้
- ทานยาตามความเหมาะสม เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบฯลฯ ทั้งนี้หากเป็นยาแก้อักเสบ จะต้องทานให้ครบถ้วนตามที่แพทย์หรือเภสัชกรสั่ง เพราะการหยุดยาด้วยตัวเองจะเพิ่มโอกาสดื้อยาตามมาในอนาคต
- ทำกายภาพ ประคบอุ่นและบริหารไหล่อย่างเหมาะสม
หากดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม อาการจะดีขึ้นภายในเวลาไม่นานนัก แต่ในรายที่ปวดมากหรือปวดเรื้อรังควรไปพบแพทย์ ห้ามปล่อยทิ้งไว้โดยเด็ดขาดเพราะอาการอาจจะรุนแรงขึ้น ส่วนวิธีการรักษาก็อาจมีความจำเป็นต้องผ่าตัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์นั่นเอง ทั้งนี้ถ้าต้องการยกของหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของจำนวนมากแต่ว่าปวดไหล่ หรือกลัวว่าไหล่จะมีปัญหาเพราะยกของไม่ถูกวิธี แนะนำให้ใช้บริการรถรับจ้าง เพราะบริษัทเหล่านี้จะมีทั้งอุปกรณ์และทีมงานมาทำงานให้ รับรองไม่เปลืองแรง ไม่เสียเวลา ไม่มีปัญหาปวดหลังปวดไหล่ตามมาแน่นอน
เลือกใช้บริการรถรับจ้าง หมดปัญหาเรื่อง ปวดหลัง ปวดไหล่
อย่างที่กล่าวถึงไปด้านบน หากใครที่ต้องการขนย้ายสิ่งของอย่างเช่น ย้ายบ้าน ย้ายหอ ย้ายคอนโดหรือขนย้ายของอื่น ๆ แต่ไม่สะดวกขนย้ายด้วยตัวเอง ควรใช้บริการรถรับจ้างจะตอบโจทย์มากกว่า เพราะไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดการยกของหนักปวดไหล่หรือยกของหนักปวดหลัง เนื่องจากมีทีมงานมืออาชีพมายกให้แทนนั่นเอง สำหรับใครที่กำลังมองหาบริษัทรับจ้างขนย้ายที่ให้บริการยอดเยี่ยมกันอยู่ เราขอแนะนำ Thaideemove ที่นี่เราให้บริการครบวงจร ซึ่งมีทั้งการขนย้าย การขนย้ายพร้อมคนยกและการขนย้ายพร้อมแพ็คของ นอกเหนือจากนี้แล้วบริษัทยังมีรถให้เลือกใช้งานกันหลากหลายประเภทตั้งแต่รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้างไปจนถึงรถเครนหรือรถเฮี้ยบ รถบางแบบมีทั้งรถคอกสูงและรถตู้ทึบ เพราะฉะนั้นจึงสามารถให้บริการได้ทุกสถานการณ์ ทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออกก็ไม่ต้องกลัวว่าสิ่งของจะเสียหายอย่างแน่นอน ที่สำคัญทำงานไว พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในราคาที่ไม่แพง
สรุปว่าการยกของหนักปวดไหล่นั้นมักเกิดจากเอ็นข้อไหล่ฉีกขาด ซึ่งอาจจะเกิดจากการยกของผิดวิธีหรือการยกของหนักบ่อยเกินไปก็ได้เช่นเดียวกัน บางคนไม่ได้ยกบ่อยแต่มีความจำเป็นต้องยกหลายชิ้นในคราวเดียวก็มีโอกาสปวดไหล่ได้เหมือนกัน ดังนั้นถ้าไม่อยากปวดไหล่ก็อย่าลืมยกของให้ถูกวิธีหรือไม่ก็ใช้บริการรถรับจ้างขนของย้ายของแทนก็เป็นทางเลือกที่ดี